จากสุพรรณมากับรถไปรษณีย์
สตางค์พอมีแต่จำต้องประหยัด
เข้าสู่เมืองกรุงมุ่งมาเป็นเด็กวัด
ได้ข้าวก้นบาตรหล่อเลี้ยงชีวี
ณ ช่างก่อสร้างอุเทนถวายฯ
เรียนตามพี่ชายเขาเคยอยู่ที่นี่
เลยได้เพื่อนใหม่เป็นนักดนตรี
สูงยาวเข่าดี ปรีชา ชนะภัย
เต้นกินรำกินเป็นศิลปินไส้แห้ง
กลางคืนแสดงวงเพรสซิเดนท์เล่นเพลงฝรั่ง
กลางวันแสดงโรงแรมนานาแนวคันทรี
กับคุณเทียรี สุทธิยง เมฆวัฒนา
มาวันหนึ่งคิดถึงเพื่อนเก่า
อยากฟังเพลงลุงขี้เมาที่เพื่อนเรารังสรรค์
แต่มันกลับกลายเป็นทำร้ายให้เพื่อนตกงาน
เพราะสมัยนั้นเขาห้ามเล่นเพลงไทย
ผมเกิดเวียงจันทน์ ปีสองพันห้าร้อยหนึ่ง
สองขวบติดตามพ่อแม่กลับเมืองไทย
เคยเป็นพระเอกหนังเรื่อง โอ้ กุ๊กไก่
ทั้งเป็นนักดนตรีห้องอัดอโซน่า
เคยเล่นโฟล์กซองกับพี่เล็กมาก่อน
จึงเป็นเพื่อนเกลอกันในยุคแสวงหา
ผมเชื่อเหลือเกินมันคือโชคชะตา
ลิขิตนำพาเป็น เทียรี่ คาราบาว
จากเดือนตุลาสองห้าสองสี่ สี่สิบปีแล้ว
เพื่อนเอ๋ยน้องแก้วกอดคอกันมาเพื่อนคาราบาว
ผลงานมากมายผ่านร้อนหนาว
คนหนุ่มคนสาวคนเฒ่ายังเป็นแฟนๆ
กี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านกิโลก็ไม่ย่อท้อ
ตราบที่มีแรงไปต่อจะขอโลดแล่น
สติยังดีสองขาสองแขน
ยังไม่มีแผนเลิกเล่นจะเลิกทำไม
เพราะลมหายใจเข้าออกเป็นเพื่อชีวิต
เพราะลมหายใจเข้าออกคือคาราบาว
เพราะลมหายใจเข้าออกเป็นเพื่อชีวิต
เพราะลมหายใจเข้าออกคือคาราบาว
จากคำนินทาก้าวมายิ่งใหญ่วงเพื่อชีวิต
ฟ้าดินลิขิตให้สู้ให้สร้างรับใช้สังคม
ให้มีเสียงเพลงคอยอุ้มสม
ถ่วงโลกกลมๆ ใบนี้ด้วยคุณธรรม
ตะวันคล้อยต่ำแทนคำเปรียบเปรยว่าเฒ่าชรา
คนเราเกิดมามีใครบ้างหนาผู้คนจดจำ
ตราบชีพยังอยู่ จะขอตอกย้ำ
จะก้มหน้าทำหน้าที่ฅนคาราบาว
40 ปีแล้ว ยังขอตอกย้ำ
จะก้มหน้าทำหน้าที่ ฅนคาราบาว